พี่ดีดี้ ชวนรู้ประกัน

 

วิธีการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากประกันอุบัติเหตุ

การมี ประกันอุบัติเหตุ (PA) เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเองทั้งหมด แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุ วันนี้เรามาแนะนำ ขั้นตอนการเบิกค่ารักษา แบบละเอียด

 

1. ตรวจสอบความคุ้มครองในกรมธรรม์

ก่อนอื่นควรเปิดดูหรือสอบถามตัวแทน/บริษัทประกันว่า

• กรมธรรม์ของคุณครอบคลุม ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ หรือไม่
• วงเงินคุ้มครองต่อครั้ง/ต่อปีเท่าไหร่
• มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ต้องรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น หรือรวมคลินิกด้วยหรือไม่

Tip : รู้สิทธิ์ก่อน จะช่วยให้คุณวางแผนการรักษาและการเบิกเงินได้ถูกต้อง

2. แจ้งเหตุและขอใบรับรองความคุ้มครอง (ถ้าต้องการใช้สิทธิ์จ่ายตรง)

หากคุณต้องการให้บริษัทประกันจ่ายตรงให้โรงพยาบาล (Cashless)

• โทรแจ้ง Call Center ของบริษัทประกันทันที
• บอกเลขกรมธรรม์ และรายละเอียดเหตุการณ์
• ขอ ใบรับรองสิทธิ์การรักษา (Letter of Guarantee) เพื่อให้โรงพยาบาลเรียกเก็บกับประกันได้โดยตรง

 

3. เก็บหลักฐานการรักษาให้ครบ
ถ้าคุณจ่ายเงินสดไปก่อน แล้วค่อยเบิกย้อนหลัง ต้องเก็บเอกสารดังนี้

• ใบรับรองแพทย์ (Medical Certificate)
• ใบเสร็จรับเงินตัวจริง (Original Receipt)
• ใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล (Detailed Bill)
• สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน
• สำเนากรมธรรม์ (บางบริษัทอาจไม่ต้องส่ง)
• สำเนารายงานอุบัติเหตุจากตำรวจ (ถ้ามี)

 

4. ส่งเรื่องเบิกกับบริษัทประกัน

• กรอกแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมทดแทน (Claim Form)
• แนบเอกสารทั้งหมดส่งทางไปรษณีย์ หรือยื่นที่สาขาบริษัทประกัน
• บางบริษัทมีช่องทางส่งเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน หรืออีเมล เพื่อความรวดเร็ว

 

5. รอการพิจารณาและรับเงิน

• บริษัทประกันจะตรวจสอบเอกสารและความคุ้มครอง
• หากถูกต้องครบถ้วน จะโอนเงินเข้าบัญชีคุณหรือส่งเช็คให้
• ระยะเวลาดำเนินการปกติประมาณ 7–15 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับบริษัท)

 

เคล็ดลับให้การเบิกเร็วและไม่ติดปัญหา

1.    แจ้งเหตุและเก็บเอกสารทุกครั้ง แม้ค่ารักษาไม่สูง

2.    ใช้สถานพยาบาลที่อยู่ในเครือบริษัทประกันเพื่อลดขั้นตอน

3.    ตรวจสอบว่าชื่อ-นามสกุล และรายละเอียดในใบเสร็จถูกต้อง

4.    ส่งเอกสารให้ครบตั้งแต่ครั้งแรก ลดโอกาสถูกตีกลับ

 

✅ สรุปสั้นๆ

1.    ตรวจสิทธิ์และวงเงิน

2.    แจ้งเหตุ – ขอจ่ายตรง หรือเตรียมเบิกย้อนหลัง

3.    เก็บเอกสารครบถ้วน

4.    ส่งเอกสารเบิก

5.    รอรับเงินคืน